Windows Server 2012 R2
- Hyper-V เวอร์ชันปรับปรุง อาทิ การย้าย (migrate) ข้อมูลขณะที่ VM ทำงานอยู่เร็วขึ้น, สามารถโคลน VM ขณะที่มันทำงานอยู่ได้, การปรับขนาดดิสก์ VM แบบออนไลน์ รวมถึงการสนับสนุนการสำรองข้อมูล การปรับขนาดดิสก์ และการจัดการหน่วยความจำแบบไดนามิกบน Linux
- Storage Spaces เวอร์ชันปรับปรุง โดยจะรองรับ SSD และรองรับการย้ายข้อมูลจากอุปกรณ์ที่บันทึกข้อมูลลงจานหมุน (spinning disk media) อย่าง HDD ไปยัง SSD ได้
SQL Server 2014
- เอนจินสำหรับระบบดาตาเบสแบบฝังในหน่วยความจำ (in-memory database) ใหม่ ที่มีโค้ดเนมว่า Hekaton โดย Hekaton จะใช้โครงสร้างข้อมูล (data structure) ต่างๆ ที่ได้รับการออกแบบเพื่อการใช้งานกับข้อมูลที่ถูกเก็บลงหน่วยความจำโดยเฉพาะ
System Center 2012 R2
- Configuration Manager 2012 R2 (เครื่องมือบริหารจัดการอุปกรณ์ไอทีภายในองค์กร) สามารถบริหารจัดการอุปกรณ์ไอทีบนกลุ่มเมฆที่อยู่ภายใต้ Windows Intune (เครื่องมือบริหารจัดการอุปกรณ์ไอทีผ่านกลุ่มเมฆ) ได้
การอัพเดต R2 นี้
เป็นการแสดงให้เห็นว่าไมโครซอฟท์จะเปลี่ยนมาอัพเดตซอฟต์แวร์ของตนทุกปี
แทนที่จะเป็นการออกซอฟต์แวร์ใหม่ทุกสามปี
ในมุมของไมโครซอฟท์การอัพเดตบ่อยก็คงไม่ไปเป็นปัญหานักเนื่องจากบริษัทใช้
โมเดลนี้อยู่กับ Windows Azure โดยบริษัทจะปล่อยฟีเจอร์ใหม่ลง Azure
เมื่อพร้อมใช้งาน
เว็บไซต์ Ars Technica กล่าวว่า
ไมโครซอฟท์จะปล่อยรุ่นพรีวิวของซอฟต์แวร์เกือบทั้งหมดที่กล่าวว่าในงาน BUILD
ที่กำลังจะมาถึง
Ars Technica ยังเสริมว่า การอัพเดตบ่อยขึ้นทำให้ลูกค้าที่ซื้อ Software
Assurance (SA) แทนการซื้อขาดครั้งเดียวจะคุ้มค่ากว่า เนื่องจากการซื้อแบบ SA นั้น
ลูกค้าจะได้รับการอัพเดตซอฟต์แวร์ที่ซื้อให้ทันสมัยอยู่เสมอตลอดช่วงเวลาที่
อยู่ภายใต้ subscription
แต่การซื้อขาดครั้งเดียวนั้นลูกค้าจะต้องมาเสียเงินซื้ออัพเดตนี้อีก
อย่างใดก็ตามถึงลูกค้าองค์กรจะเสียเงินเพื่อให้ซอฟต์แวร์ของตนได้อัพเดตใหม่
อยู่เสมอ ก็ขึ้นกับองค์กรนั้นว่าพร้อม ยินดี
หรือสามารถที่จะอัพเดตเป็นเวอร์ชันใหม่เพื่อใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ล่าสุดได้
หรือไม่
ที่มา: Ars Technica
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !